หลายๆองค์กรเริ่มวางแผน เตรียมตัวให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
หรือบางองค์กรได้ทำไปแล้วบ้างบางส่วน จะพบปัญหาที่ตามมามากมาย
.
.
หัวหน้าควรมอบหมายงานให้ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา
อาทิ งานไหนที่ตอนนี้ทำไม่ได้ในสถานการณ์เช่นนี้
อาจจะต้องให้ย้ายมาช่วยเพื่อนแผนกอื่นที่จำเป็นก่อน
มีการปรับทีมไหนเป็นทีมหลัก ทีมไหนเป็นทีมรอง สลับกันไป
.
.
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพ ร่างกายยังแข็งแรงดีไหม
จิตใจตอนนี้เป็นยังไง หดหู่กับข่าวที่เกิดขึ้นไหม หวั่นไหวกับเหตุการณ์บ้างรึเปล่า
หรืออาจจะห่วงใยไปถึงครอบครัวของพนักงานด้วยก็ได้
ช่วงนี้กำลังใจสำคัญมากๆ ที่จะทำให้ทีมฝ่าวิกฤตไปต่อด้วยกัน
.
.
ช่วยอะไรใครได้ให้รีบช่วย รวมถึงช่วยเพื่อนต่างแผนก ต่างองค์กร
คงไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเกี่ยงกันว่า นี่ไม่ใช่งานฉัน นี่งานเธอ
เพราะถ้าประเทศไปไม่รอด องค์กรเราเองก็คงไม่รอด
สุดท้ายก็ส่งผลถึงตัวเราก็คงไปไม่รอดเช่นกัน
หัวหน้าที่ดีควรทำให้พนักงานรู้สึกปลอดภัย มี Flexible มากๆในการทำงานช่วงนี้
.
.
หัวหน้าควรเปิดรับทุกช่องทางในการสื่อสารกับพนักงาน
ให้พนักงานทุกคนเข้าถึงได้ง่ายๆ มีปัญหาอะไรก็สามารถคุยได้โดยตรง
ผ่านทางออนไลน์แบบเห็นหน้า เหมือนเวลาที่อยู่ที่ทำงาน
เป็นโอกาสที่ดีที่หัวหน้าจะได้ไปคลุกคลี สื่อสารกับทีมมากขึ้นด้วยตัวเอง
ซึ่งการสื่อสารในช่วงวิกฤตควรชัดเจน รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ
เพื่อกันความสับสนและความคลาดเคลื่อนของข้อมูล
ยิ่ง Work From Home ยิ่งต้องสื่อสารกันมากขึ้น
.
.
ในตัวพนักงานที่ซ่อนอยู่ คนหนึ่งอาจจะต้องทำมากกว่า 1 หน้าที่
ทักษะบางอย่างอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป
พนักงานเองก็ต้องปรับตัว เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยให้การทำงานสะดวก รวดเร็วขึ้น
รวมถึงพฤติกรรมของลูกค้าเองก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย เพราะฉะนั้นใครที่เรียนรู้ ลงมือทำ
ปรับตัวได้ก่อน ย่อมได้เปรียบในยุคนี้
.
.
และได้งานที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม ทีมงานมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น รวมถึงมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
.
.
หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดช่วยกันแชร์ให้ทีมงานได้
พวกเราจะรอดและมีชีวิตที่ดีกว่าเมื่อวาน
.
.
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า