หลายๆคนเริ่มตื่นตัวกับการเรียน การสอนออนไลน์มากขึ้น
บทความนี้เขียนจากประสบการณ์ผู้เขียนโดยตรงในมุมผู้สอนและผู้เคยใช้โปรแกรม
และคนชอบถามว่าใช้อะไรดีกว่ากัน ต้องออกตัวว่าผู้เขียนเองก็ยังใช้ไม่ครบทุก function
แต่จะแบ่งปันในมุมเท่าที่ทราบ ให้ทุกคนได้เอาไปประยุกต์ใช้กันนะคะ
ไม่ว่าจะเป็น Zoom, Microsoft Teams, G Suite, Webex แต่ละอันมีข้อดีในตัวเอง
ต้องเริ่มจากสารตั้งต้นก่อนว่า บริษัทต้นสังกัดเราเป็นใคร เช่น
หากเป็นภาคการศึกษาโรงเรียน มหาวิทยาลัย จะมีโอกาสได้ใช้ฟรีในส่วนของ
Microsoft Teams Education และ Google for Educations
ซึ่งจะมีลูกเล่นและเหมาะกับการเรียนการสอนมากกว่า
ที่สำคัญคือหน่วยงานที่เราสังกัดใช้ของค่ายไหนอยู่
หากใช้ Office 365 ก็จะได้ตัว Microsoft Team พ่วงมาด้วย
หรือหากใช้ G mail ก็จะพ่วง G Suite for Education มาด้วย
.
.
ส่วนหน่วยงานเอกชน สามารถเลือกได้ตามงบที่มีเลยค่ะ
ต่อไปจะขอพูดถึงเฉพาะในส่วนที่ผู้เขียนเคยใช้แล้วคิดว่าเวิร์คมาให้ทราบกันค่ะ
เริ่มจาก Zoom เหมาะกับคนที่อยากจัดเทรนนิ่ง สัมมนาที่เสมือนในคลาสจริง
มีการโต้ตอบแบบในห้องกันได้ ที่สำคัญชอบ Function Break Out room
เพราะสามารถแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยๆได้
เพื่อจะได้brainstorm หรือคุยกันในกลุ่มย่อยๆ
.
.
ข้อควรระวังคือ หากอยากใช้แบบไม่ตัดเมื่อครบ 40 นาที ควรใช้แบบเสียตัง จะดีกว่า
จะใช้ได้ต่อเนื่อง24 ชั่วโมง ซึ่งก็มีหลาย package ให้เลือก
สามารถเลือกที่เหมาะกับขนาดองค์กรและการใช้งานได้เลย
.
.
ผู้เขียนยังชอบการสอนแบบ Two Way Communication มากกว่าการเรียนแบบแห้ง
หรือเรียนผ่าน VDO ซึ่งอัดไว้อยู่แล้ว การเรียนแบบ Virtual จะให้เราสามารถเห็นสีหน้า แววตา
ของผู้เรียนได้ทันทีว่าเข้าใจหรือไม่ สามารถถามตอบได้ทันทีเหมือนในห้อง
.
.
สำหรับครู อาจารย์ภาคการศึกษาแนะนำให้ใช้ Microsoft Team หรือ G Suite มากกว่า
เพราะจะมีfunction ที่เอื้อต่อการเรียน การสอนมากกว่า อาทิ
มีการแชร์ไฟล์ สามารถดูได้ว่ามีนักเรียน นักศึกษาคนไหนมามีส่วนร่วมในการตอบคำถามได้
สามารถมอบหมายงาน บันทึกคะแนน ตัดเกรด ทำทุกอย่างในนี้ได้เลย
ขอแนะนำภาคการศึกษาให้สมัครแบบ For Education จะได้ลูกเล่นที่มากกว่าทั่วไป
เช่น การสอนสดออนไลน์ด้วย Google Meets การสร้างห้องเรียนผ่าน Google Classroom
ขอไม่ลงลึกในรายละเอียดเพราะทั้งสองค่ายมีชื่อเรียกแตกต่างกัน แต่function การใช้งาน
ไม่ค่อยต่างกัน ขึ้นกับความชอบ ความถนัดค่ายไหนมากกว่ากัน
.
.
สุดท้าย Webex อันนี้ผู้เขียนยังไม่เคยเป็น Host เคยแต่เป็นคนเข้าร่วมเฉยๆ
เลยอาจจะบอกได้ไม่เยอะ เท่าที่เคยใช้มีอันนึงที่ชอบและคิดว่าแตกต่างนั่นก็คือ
แถบสัญลักษณ์ เวลาที่เราถามแล้วให้ผู้เข้าร่วมตอบ ผู้เข้าร่วมสามารถ
ใช้แถบอักษรแล้วไปตอบได้เลย ก็จะทำให้การประชุมหรือถามความเห็นสั้น กระชับ
และรู้เลยว่าใครตอบอะไรบ้าง เพราะมันมีแถบชื่อเราอยู่
.
.
นอกนั้นก็เป็นฟังค์ชั่นคล้ายๆZoom เช่น การทำ Poll แบบสำรวจ การพิมตอบทาง chat
ส่วนใหญ่มักเห็นองค์กรต่างชาติจะใช้Webex มากกว่า
อาจจะเป็นในแง่ความปลอดภัยของข้อมูลด้วยก็ได้
.
.
สุดท้ายอยากให้ผู้ใช้ทุกคน เลือกให้เหมาะกับกลุ่มคนเรียน ว่าเป็นใคร
บางอันต้องติดตั้งโปรแกรมก่อน บางอันสามารถใช้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมก็ได้
และดูว่าอันไหนตอบโจทย์กลุ่มคนเรียนของเรามากว่ากัน
ซึ่งอันนี้สำคัญมากๆหรือตรงกับส่วนแรกของ Design Thinkingคือ Empathy นั่นเอง
เราลองดูว่าอันไหนตอบโจทย์และเหมาะกับกลุ่มคนเรียนของเรามากกว่ากัน ก็ใช้อันนั้นได้เลยค่ะ
.
.
เครื่องมือเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกสองส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน
นั่นก็คือ ผู้สอนและเนื้อหา (อาจจะเล่าตอนหน้า) หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
หากลองใช้แล้วติดขัดตรงไหน ลองทักมาถามได้ เผื่อมีอะไรที่รู้แล้วช่วยได้ก็ยินดีค่ะ
สามารถแชร์บทความนี้ให้คนที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อตอบโจทย์ผู้เรียนของเรามากที่สุด
...
อรพินท์ ธีระตระกูลชัย(เทรนเนอร์ซันนี่)
Team Energized Trainer